ชาวลับแล จ.อุตรดิตถ์ พร้อมใจร่วมประเพณีโบราณ
“แห่น้ำขึ้นโฮง” สืบทอดกว่า 1,000 ปี ลุ้น “เลขเด็ด” ธูปเสี่ยงทาย!
ผู้สื่อข่าวรายงาน: วันที่ 9 พฤษภาคม 2568
อุตรดิตถ์ – เกษตรกรชาวสวนผลไม้ ทุเรียน ลางสาด ลองกอง แห่งอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมใจสวมใส่เสื้อผ้าพื้นเมืองแบบไทยยวนอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวลับแล จัดขบวนแห่ที่งดงามและยิ่งใหญ่ ตามแบบฉบับประเพณีโบราณ “แห่น้ำขึ้นโฮง” ของบรรพบุรุษที่ได้รับการสืบทอดมายาวนานกว่า 1,000 ปี ขบวนแห่ในครั้งนี้ได้มีการอัญเชิญน้ำอบน้ำหอม ต้นผึ้ง ต้นดอก และเครื่องบายศรีอันวิจิตรตระการตา เพื่อเข้าร่วมในพิธีอันศักดิ์สิทธิ์

ภาพ: ขบวนแห่น้ำขึ้นโฮงอันยิ่งใหญ่ของชาวลับแล
ขบวนแห่ได้เริ่มต้นขึ้นจากด้านหน้าวัดดอนสัก ตำบลฝายหลวง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยเคลื่อนขบวนไปตามเส้นทางกว่า 2 กิโลเมตร มุ่งหน้าสู่บริเวณอนุสาวรีย์เจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาสูง และเป็นสถานที่ประทับของ เจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร ปฐมกษัตริย์ผู้ครองเมืองลับแลคนแรก ตั้งแต่อดีตกาล
ณ แท่นบูชา ได้มีการจัดเตรียมเครื่องเซ่นไหว้ประกอบพิธีอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหัวหมูต้ม ไก่ต้ม อาหารคาวหวาน ผลไม้นานาชนิด และเครื่องบายศรี เพื่อนำขึ้นสักการะดวงวิญญาณและสรงน้ำเจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร ตลอดจนเทพารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เมื่อขบวนแห่มาถึงยังลานอนุสาวรีย์เจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร นายรวี เล็กอุทัย สมาชิกผู้แทนราษฎร จ.อุตรดิตถ์ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี นำชาวลับแลอัญเชิญดวงวิญญาณของเจ้าฟ้าฮ่ามกุมารลงจากที่ประทับ เพื่อให้ลูกหลานชาวลับแลที่จัดขบวนน้ำอบน้ำหอม หาบต้นผึ้ง ต้นดอก เครื่องบายศรี และเครื่องสักการะ ได้ร่วมกันถวาย จากนั้น นายรวี เล็กอุทัย, นายสุระวุธ จันทร์งาม นายอำเภอลับแล และนายชูชาติ จันทร์วัฒนพงษ์ นายก อบต.ฝายหลวง ได้ร่วมกันผูกผ้าสามสี คล้องพวงมาลัย 7 สี 7 ศอก ก่อนที่จะนำชาวลับแลร่วมกันสรงน้ำอนุสาวรีย์เจ้าฟ้าฮ่ามกุมารเพื่อความเป็นสิริมงคล

ภาพ: นายรวี เล็กอุทัย และคณะร่วมพิธีสรงน้ำอนุสาวรีย์เจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร
สำหรับ **ประเพณีแห่น้ำขึ้นโฮง** ซึ่งเป็นภาษาลับแลที่แปลว่า “ขึ้นโรง” นั้น เป็นประเพณีที่ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่โบราณ โดยยึดถือฤกษ์ในวันขึ้น 13 ค่ำ เดือน 6 ของทุกๆ ปี ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันพืชมงคล ชาวลับแลถือว่าเป็นการเข้าสู่ฤดูฝน จึงพร้อมใจกันตั้งจิตอธิษฐานเป็นหนึ่งเดียว หาบน้ำอบน้ำหอม ต้นผึ้งต้นดอก เครื่องบายศรี และเครื่องบวงสรวง สักการะและถวายแด่ดวงวิญญาณปฐมกษัตริย์ผู้ครองเมืองลับแลคนแรก ตลอดจนเทพารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เพื่อดลบันดาลความร่มเย็นเป็นสุขแก่ชาวลับแล ขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ไม่เกิดภัยธรรมชาติ ทำให้พืชผลทางการเกษตรสมบูรณ์พูนสุข สามารถขายได้ในราคาที่ดี และยังเป็นการแสดงความเคารพกตัญญูกตเวทีต่อผู้สร้างบ้านแปงเมือง บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ประเพณีอันดีงามนี้ได้สืบทอดต่อกันมายาวนานถึง **1,038 ปี** แล้ว
ซึ่งในระหว่างการประกอบพิธี ได้มีผู้เข้าร่วมพิธีเกิดอาการตัวสั่น เหมือนมีองค์เจ้าเข้าร่าง พร้อมกับให้ชาวบ้านนำยาเส้นมาให้พันและจุดไฟสูบบุหรี่ จากนั้นชาวบ้านได้มารุมล้อม ณ บริเวณศาลาด้านหน้าฝั่งตรงข้ามอนุสาวรีย์เจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร โดยเจ้าที่ที่ประทับร่างได้มีการสวดคาถาพร้อมอวยพรโชคให้กับผู้ที่เข้าไปร่วมพิธี
ชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ร่างที่ประทับทรงอยู่นั้นน่าจะเป็นเทพเทวา หรือเจ้าที่ ที่ดูแลปกปักษ์รักษาอนุสาวรีย์เจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร ซึ่งในทุกๆ ปีเมื่อมีการจัดพิธีบวงสรวงและงานประเพณีแห่น้ำขึ้นโฮง ก็จะมีเทพผู้ดูแลสถานที่แห่งนี้ลงมาประทับทรง เพื่ออำนวยความสุขและความโชคดีให้กับชาวอำเภอลับแลเป็นประจำทุกปี
ไม่พลาดส่อง “เลขเด็ด” ธูปเสี่ยงทาย ลุ้นโชคใหญ่
ในขณะเดียวกัน ทางด้านหน้าอนุสาวรีย์เจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร ได้มีการ **จุดธูปเสี่ยงทาย** ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ชาวบ้านให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ชาวบ้านเปิดเผยว่าในทุกๆ ปีเมื่อถึงช่วงจัดงานประเพณีแห่น้ำขึ้นโฮง ก็จะมีการจุดธูปเสี่ยงโชค และในทุกๆ ปีก็จะมีผู้ที่ถูกรางวัลกันอยู่เป็นประจำ บางปีก็จะถูกรางวัลจากเลขธูป บางปีก็จะถูกรางวัลเป็นปี พ.ศ.ที่สร้างอนุสาวรีย์เจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร

ภาพ: ธูปเสี่ยงทายปรากฏตัวเลขนำโชค
สำหรับเลขเสี่ยงโชคที่ปรากฏในครั้งนี้คือตัวเลข 799 และเลข พ.ศ. ที่สร้างอนุสาวรีย์เจ้าฟ้าฮ่ามกุมารคือ พ.ศ.1513 ซึ่งชาวบ้านและสายมูทั้งหลายต่างก็นำโทรศัพท์มาถ่ายรูปเก็บไว้ เพื่อนำไปเสี่ยงโชคในงวดที่จะมาถึงนี้
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม หรือเข้าร่วมกิจกรรมสนุก ๆ พร้อมโปรโมชั่นดี ๆ อย่าพลาด! คลิกเลย advantplay88plus.co สำหรับโปรโมชั่นและกิจกรรมสุดพิเศษที่รอคุณอยู่!
เพื่อความน่าเชื่อถือและการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นของไทย คุณสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแหล่งข้อมูลภายนอก เช่น จังหวัดอุตรดิตถ์ – วิกิพีเดีย หรือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.).